ราคาทองคําช่วงเช้าวันนี้ ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่บริเวณ 1,448.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนย่อตัวลงมาแถว 1,430 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่การอ่อนตัวลง ของราคาทองคําก็ยังไม่มากนัก โดยได้รับแรงหนุน หลังปธน.ทรัมป์ ทวีตข้อความว่า สหรัฐจะเก็บภาษีเพิ่ม 10% ต่อสินค้านําเข้าจากจีนมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ มีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. อีกทั้งปธน.ทรัมป์ ยังกล่าวด้วยว่า ถ้าการเจรจาการค้าไม่มีความคืบหน้า เขาอาจจะขึ้นภาษีต่อไป แม้แต่สูงกว่าระดับ 25% ที่สหรัฐเรียกเก็บอยู่แล้วต่อสินค้านําเข้าจากจีนมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ตึงเครียดมากขึ้น หลังรัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจถอดถอนชื่อเกาหลีใต้ออกจากรายชื่อประเทศที่ได้รับการปฏิบัติด้วยสิทธิพิเศษด้านการส่งออกสินค้าที่อาจนําไปใช้ในทางทหารได้ หรือ “white list”เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 28 ส.ค.เป็นต้นไป ความขัดแย้งทางการค้าทั่วโลก กดดันตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ร่วงกว่า 2% ตามตลาดหุ้นสหรัฐ ทําให้นักลงทุนเข้าหา สินทรัพย์ safe heaven อย่างทองคํา อย่างไรก็ดีให้ระมัดระวังความผันผวนทีอาจเกิดขึ้นจากการเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานสหรัฐเดือนก.ค.ในวันนี้ 19.30 น. ตามเวลาไทย ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า แม้จะมีแรงซื้อให้ราคาดีดตัวขึ้นอย่างมาก แต่ยังคงเห็นแรงขายกดดันเมื่อราคาทองปรับตัวขึ้นเข้าใกล้กรอบแนวต้านด้านบน ทั้งนี้ หากการดีดตัวของราคายังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านระดับ 1,439 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทําให้เกิดแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงสู่ระดับ 1,422 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นประเมินการเคลื่อนไหวของราคาทองในแบบของการแกว่งตัวเพื่อสะสมแรงซื้อหากยืนได้จะเกิดการดีดตัวขึ้นต่อ แนะนํากลยุทธ์ การลงทุนโดย ถ้าราคาเกิดการอ่อนตัวลงมาอาจเข้าซื้อใหม่หากราคาทองคําไม่หลุด 1,422-1,411 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สําหรับผู้มีทองคําให้รอทํากําไร หากราคาทองดีดตัวขึ้นไปและไม่สามารถยืนเหนือ 1,439-1,453 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ที่มา ylgbullion.co.th